01 ดวงตาที่มีเสน่ห์ ต้องเริ่มจากการปรับกล้ามเนื้อตา
การศัลยกรรมดวงตาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือการทำตาสองชั้น จนทำให้เกิดความคิดที่ว่า ดวงตาที่มีเสน่ห์จะต้องเท่ากับตาสองชั้น แต่หากลองสำรวจดูแล้ว คนที่มีตาสองชั้นหลบใน หรือบางคนที่ไม่มีชั้นตาเลย ก็มีเสน่ห์เช่นกัน สิ่งที่เหมือนกันของดวงตาเหล่านั้นคือ รูปร่างพื้นฐานของดวงตาที่เหมาะสม ในความเป็นจริงแล้วรูปลักษณ์ของตาสองชั้นจะขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละคน มากกว่ารูปทรงของชั้นตาโดยเฉพาะตำแหน่งของลูกตาดำที่จะถูกมองเห็นผ่านรูปตาของบุคคลนั้นๆ

{ การมองเห็นลูกตาดำที่แตกต่างกันกับรูปร่างของดวงตา }


รูปร่างของดางตาโดยทั่วไป


ตาเหล่เล็กน้อย (หนังตาตก)
กล้ามเนื้อที่ปกติจะทำหน้าที่ดึงหนังตาด้านบนให้เปิดออก แต่หนังตาด้านนอกมีลักษระหนังตาตก


(หนังตาตก)
ตาเหล่ (หนังตาตก)
ดวงตาปกติ แต่ลูกตาดำอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไป ทำให้เห็นส่วนของตาขาวด้านล่างมากเกินไป


หนังตาตก
ทำให้ดวงตามีลักษณะเหมือนง่วงนอน และหนังตาเปิดต่ำว่า 7 มิลลิเมตร



ฉะนั้น หากดวงตาของคุณไม่สามารถเห็นลูกตาดำในขนาดที่เหมาะสมได้ แทนที่จะยึดติดกับการทำตาสองชั้น แนะนำให้ลองนึงถึงการปรับกล้ามเนื้อตา หรือการเปิดรอบดวงตา ควบคู่ไปกับการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปร่างของดวงตาก่อน
โดยเฉพาะ
เมื่อกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ทำให้เห็นลูกตาดำเพียงเล็กน้อย เพียงแค่ศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตา
เย็บกล้ามเนื้อให้มีแรงมากขึ้นก็สามารถทำให้มีดวงตาที่ตาสดใสขึ้นได้
02 การทำตาสองชั้นกับการปรับกล้ามเนื้อตามีเป้าหมายที่แตกต่างกัน
หลักการของการทำตาสองชั้น คือการเชื่อมหนังตาเข้ากับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตา ซึ่งคือการทำให้ผิวหนังพับขึ้นไปโดยอัตโนมัติเมื่อมีการลืมตา แต่หากทว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีชั้นตา แต่จะทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ ก็เลยดูเหมือนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ดวงตาที่มีเสน่ห์ควรจะเป็นดวงตาที่หนังตาเปิดขึ้นทำให้เห็นลูกตาดำชัดเจน แต่การทำตาสองชั้น ทำให้เกิดเพียงเส้นชั้นตา แต่ไม่ได้ทำให้มองเห็นลูกตาดำชัดขึ้น
ฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องปรับรูปดวงตา เพราะการศัลยกรรมปรับรูปดวงตาเป็นการเพิ่มแรงในการดึงหนังตาให้เปิดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเป็นรูปดวงตาที่มีเสน่ห์ หากเป็นกรณีที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง การปรับกล้ามเนื้อตาก็สามารถทำให้ดวงตาดูโตสดใสขึ้นได้ หรือหากเป็นกรณีที่มีเส้นชั้นตาอยู่แล้ว เมื่อได้ปรับกล้ามเนื้อตาเสริมด้วยก็จะทำให้เกิดเส้นชั้นตาที่ชัดเจนและมีเสน่ห์มากชึ้น นอกจากนี้แล้ว เมื่อเราสามารถลืมตาได้สบายมากขึ้น จะทำให้ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากพฤติกรรมการขมวดคิ้ว หรือการยกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย




แม้จะมีตาสองชั้น แต่หากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็ไม่สามารถทำให้เห็นลูกตาดำได้อย่างพอเหมาะ
การศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตาจะช่วยเรื่องรูปร่างของดวงตาทำให้สามารถให้มีดวงตาที่โตสดใสขึ้นได้
※ รูปภาพที่เห็นด้านบน สามารถต่างแตกออกไปได้ตามลักษณะการถ่ายทำ และรูปนี้ได้รับอนุญาตจากบุคคลในรูปก่อนนำมาใช้
03
การศัลยกรรมทุกประเภท
ไม่สามารถครอบคลุมทุกกรณี
กรุณาตัดสินใจอย่างรอบคอบ
อย่างที่ได้อธิบายไปข้างต้น การศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตามีไว้สำหรับดวงตาที่กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเปิดลูกตามีอาการอ่อนแรง ในทางกลับกันหากกล้ามเนื้อปกติดี ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำศัลยกรรมนี้ ฉะนั้นการตรวจสภาพของของดวงตาก่อนตัดสินใจจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดบางครั้งคำวินิจฉัยเบื้องต้น เช่น เมื่อกดบริเวณเหนือคิ้วแล้วทำให้ลืมตาลำบาก, เกิดริ้วรอยบนหน้าผากเวลาลืมตา, ไม่มีเส้นชั้นตาและหนังตาดูหย่อนคล้อย หรือดวงตาดูเล็ก อาจจะทำให้ได้รับการเสนอให้ทำศัลยกรรมปรับรูปดวงตา แต่คำวินิจฉัยเพียงเท่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคำตอบในการแก้ไขอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ จึงอาจกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกศัลยกรรมผิดวิธี
ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นสาเหตุให้คุณต้องเลือกผู้เชี่ยวชาญ ที่จะสามารถให้คำวินิจฉัยได้ว่าจำเป็นที่ต้องทำศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตาหรือไม่ หรือหากจำเป็นก็สามารถวางแผนได้ว่าต้องปรับระดับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป
คำวินิจฉัยต่างๆที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับกล้ามเนื้อดวงตา
01. วินิจฉัยจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เมื่อมีการกดบริเวณหน้าผากแล้ว ทำให้ลืมตาลำบาก
02. วินิจฉัยจากริ้วรอยบนหน้าผากเวลาลืมตา
03. วินิจฉัยจากการที่มองเห็นลูกตาดำเพียงครึ่งเดียว
04. วินิจฉัยจากขนาดของดวงตา
เพราะกล้ามเนื้อตาของแต่ละคนมีแรงที่ต่างกัน เทคนิคที่ใช้ในการปรับจึงต้องแตกต่างกันออกไป
หากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจนทำให้มองเห็นลูกตาดำเพียงครึ่งเดียวก็จะเหมาะกับการปรับกล้ามเนื้อโดยใช้วิธีกรีด แต่หากกล้ามเนื้อตาพอมีแรงอยู่บ้าง ก็สามารถใช้เทคนิคเย็บจุดสองชั้นได้
ศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตาแบบเย็บจุดสองชั้น เป็นเทคนิคที่คิดขึ้นมาใหม่โดย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ ศัลยแพทย์ ปาร์ค ซอนแจ ซึ่งจะไม่มีการกรีด แต่จะใช้แรงจากไหมช่วยให้กล้ามเนื้อติดกัน เป็นวิธีการที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่า
การศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตา โดยไม่กรีดแต่ใช้เพียงไหมเย็บนั้น นับว่าเป็นการศัลยกรรมที่ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร เพราะการปรับแรงของกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคนี้มีความยากและค่อนข้างละเอียด และข้อเสียของเทคนิคนี้คือยังมีโอกาสที่ไหมอาจจะหลุดอีกด้วย แต่การเย็บจุดสองชั้นสามารถกำจัดข้อเสียเหล่านั้นได้ และยังมีอีกข้อดีก็คือไม่ต้องกรีดอีกด้วย
เทคนิคศัลยกรรมแบบไม่กรีด จะทำให้ทั้งระยะเวลาผ่าตัด และระยะเวลาพักฟื้นสั้นขึ้นนอกจากนี้ หลังผ่าตัดแล้วจะไม่ค่อยมีอาการปวด และอาการบวมต่างๆ จึงทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ไวยิ่งขึ้น
เพิ่มแรงกล้ามเนื้อ
ที่ใช้ในการลืมตา
วิธีที่ปลอดภัย
และได้ผลลัพธ์
ที่พึงพอใจ
พักฟื้น
ในระยะสั้น
ศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตา
แบบเย็บจุดสองชั้น
ดวงตาสวยงาม
เป็นธรรมชาติ
ระยะเวลา
ผ่าตัดสั้น
รูปลักษณ์ที่
สดใส
ศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตา แบบเย็บจุดสองชั้น
- เพิ่มแรงกล้ามเนื้อ ที่ใช้ในการลืมตา
- วิธีที่ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ ที่พึงพอใจ
- พักฟื้น ในระยะสั้น
- ดวงตาสวยงาม เป็นธรรมชาติ
- ระยะเวลา ผ่าตัดสั้น
- รูปลักษณ์ที่ สดใส
ข้อมูลการผ่าตัด
-
ระยะเวลาการผ่าตัด
ประมาณ 30 นาที
-
วิธีวางยา
ยาชาเฉพาะที่
-
ตัดไหม
เอาออกประมาณ 3 ~ 5 วันหลังผ่าตัด
-
นอนโรงพยาบาล
กลับบ้านได้เลย
-
เช็คอัพ
ประมาณ 1 ครั้ง
-
พักฟื้น
ประมาณ 3 วันหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ระดับอาการปวดหลังผ่าตัด
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
เนื่องจากเป็นการใช้ยาชาเฉพาะจุด ความเจ็บปวดที่เกิดจากการใช้ยาชาจะน้อยลง
หลังจากผ่าตัดแล้วบริเวณแผลอาจจะรู้สึกแสบหรือร้อนได้บ้างแต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการจะค่อยๆหายไปตามลำดับ
ส่วนอาการบวมและรู้สึกเป็นก้อนๆ สามารถบรรเทาได้ด้วยยาที่ทางโรงพยาบาลสั่ง ควบคู่ไปกับการหมั่นประคบเย็น จะยิ่งช่วยให้ลืมตาได้กว้างชึ้นและบรรเทาอาการบวมให้ลดลงได้เร็วขึ้นอีกด้วย
* เป็นค่าเฉลี่ยจากการทำแบบสอบถามหลังผ่าตัดของคนไข้ที่ได้เข้ารับการรักษาจริง
* ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างออกไปตามแต่ละบุคคล
หากพิจารณาจากความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อตา บางครั้งวิธีการเย็บจุดแบบสองชั้นอาจไม่ได้ผลจึงต้องใช้วิธีการผ่าตัดแบบกรีดเพื่อให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากขึ้นแต่โดยส่วนใหญ่แล้วหลายๆคนมักต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดแบบกรีด เพราะกลัวและมีความคิดที่ว่าถ้าทำแบบกรีด อาจจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูแปลกออกไปอย่างไรก็ตามหากได้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถและความชำนาญให้คำแนะนำในการผ่าตัด ก็จะสามารถทำให้ผลลัพธ์ของดวงตานั้นออกมาดูเป็นธรรมชาติได้
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการผ่าแบบกรีดคือ อาการบวมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะพักฟื้น ซึ่งเมื่ออาการบวมบรรเทาลง ผลลัพธ์ของการผ่าแบบกรีดและไม่กรีดแทบไม่ต่างกัน หรือหากเป็นกรณีที่เส้นตาสองชั้นอยู่สูงเกินไป ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แปลกออกไป ซึ่งกรณีนี้จะไม่ถือเป็นปัญหาของการผ่าตัดแต่จะขึ้นกับความชำนาญของศัลยแพทย์นั้นๆ
หากได้ลองทำความเข้าใจดูอีกครั้งความจริงแล้วการใช้เทคนิคนี้ก็มีข้อดีอยู่มากมายศัลยแพทย์สามารถตรวจสอบแรงตึงของกล้ามเนื้อได้โดยตรง และยังสามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ หลังการผ่าตัดแล้ว เมื่อสามารถลืมตาได้สบายมากขึ้น จะยิ่งทำให้อาการบวมช่วงพักฟื้นหายเร็วขึ้นด้วย
ศัลยแพทย์สามารถตรวจสอบแรงตึงของกล้ามเนื้อได้โดยตรง และยังสามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ หลังการผ่าตัดแล้ว เมื่อสามารถลืมตาได้สบายมากขึ้น จะยิ่งทำให้อาการบวมช่วงพักฟื้นหายเร็วขึ้นด้วย
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด
01. ผลลัพธ์ที่ดูแปลก?
อาการบวมที่เกิดขึ้นในช่วงพักฟื้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หากเป็นในกรณีที่เส้นตาสองชั้นที่อยู่สูงเกินไปทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แปลกออกไปกรณีนี้จะไม่ถือเป็นปัญหาของการผ่าตัดแต่จะขึ้นกับความชำนาญของศัลยแพทย์นั้นๆ
02. มีรอยแผลชัดมองเห็นได้ง่าย?
หลังได้รับการผ่าตัด แน่นอนว่าจะเห็นเป็นรอยแผลทันที ซึ่งทุกคนต่างกังวล แต่ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน รอยแผลจะค่อยๆจางลงจนแทบมองไม่เห็น
-
หลังจากตัดไหม
-
1 เดือนหลังผ่าตัด
-
3 เดือนหลังผ่าตัด
-
6 เดือนหลังผ่าตัด
※ ภาพจริงกับภาพถ่ายด้านบนอาจมีความแตกต่างกันได้เนื่องจากข้อจำกัดในการถ่าย และรูปดังกล่าวได้รับอนุญาตจากบุคคลในรูปก่อนนำมาใช้
ศัลยแพทย์สามารถตรวจสอบแรงตึงของกล้ามเนื้อได้โดยตรง และยังสามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจซึ่งโรงพยาบาลบาโนบากิทุ่มเทกับการศึกษาด้านนี้เป็นอย่างมาก จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญในการศัลยกรรมปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีดเป็นพิเศษ
รอยกรีดที่บรรจงประณีต เกิดเป็นเส้นตาสองชั้นที่เป็นธรรมชาติ
กรีดเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
ดวงตาที่สดใสมีชีวิตชีวา เพื่อรูปลักษณ์ที่ดีขึ้น
ข้อมูลการผ่าตัด
-
ระยะเวลาการผ่าตัด
ประมาณ 40 นาที ~ 1 ชั่วโมง
-
วิธีวางยา
ยาชาเฉพาะที่
-
ตัดไหม
เอาออกประมาณ 6 ~ 7 วันหลังผ่าตัด
-
นอนโรงพยาบาล
กลับบ้านได้เลย
-
เช็คอัพ
ประมาณ 1 ครั้ง
-
พักฟื้น
ประมาณ 3~5 วันหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ระดับอาการปวดหลังผ่าตัด
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
-
square
เนื่องจากเป็นการใช้ยาชาเฉพาะจุด ความเจ็บปวดที่เกิดจากการใช้ยาชาจะน้อยลง
หลังจากผ่าตัดแล้วบริเวณแผลอาจจะรู้สึกแสบหรือร้อนได้บ้างแต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการจะค่อยๆหายไปตามลำดับ
ส่วนอาการบวมและรู้สึกเป็นก้อนๆ สามารถบรรเทาได้ด้วยยาที่ทางโรงพยาบาลสั่ง ควบคู่ไปกับการหมั่นประคบเย็น จะยิ่งช่วยให้ลืมตาได้กว้างชึ้นและบรรเทาอาการบวมให้ลดลงได้เร็วขึ้นอีกด้วย
* เป็นค่าเฉลี่ยจากการทำแบบสอบถามหลังผ่าตัดของคนไข้ที่ได้เข้ารับการรักษาจริง
* ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างออกไปตามแต่ละบุคคล